คดีชูวงษ์พลิกอีก หลังพบปมโอนหุ้นมีพิรุธ ปลอม รายละเอียดเนื้อหา ขณะที่ลายเซ็นเป็นของจริง เผย จ่อออกหมายจับ 2 สาวเชื่อมโยง ส่วนคดี รถชนก็สั่งสอบเพิ่ม หลังพบรถคันเกิดเหตุหายไปครึ่งชั่วโมง ผบ.ตร.เผยปมโอนหุ้นอาจเชื่อมโยงกับเหตุเสียชีวิต แต่ทุกอย่าง ต้องว่ากันไปตามพยานหลักฐาน ฮึ่มบริษัทหลักทรัพย์ปกปิดข้อมูลไม่ให้ความร่วมมือ อาจเข้าข่ายร่วมกระทำความผิดด้วย
เมื่อวันที่ 5 ส.ค. ที่สำนักงานตำรวจ แห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. เปิดเผยก่อนเข้าร่วมประชุมกับชุดคลี่คลายคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แซ่ตั๊ง นักธุรกิจรับเหมาก่อสร้างรายใหญ่ ร่วมกับบช.น. กองปราบปราม และกองพิสูจน์ หลักฐานกลาง ว่า เบื้องต้นพบการโอนหุ้น มีความผิดปกติชัดเจน ส่วนตัวเชื่อว่าอาจจะมีความเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ แต่ต้องรอพยานหลักฐาน ส่วนจะออกหมายจับใคร จากกรณีความผิดปกติในการโอนหุ้นหรือไม่นั้น ต้องรอให้พนักงานสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐานก่อน ซึ่งมีหลายคนเกี่ยวข้อง แต่ยังไม่สามารถระบุได้
ทั้งนี้ จะแยกสำนวนออกเป็น 2 คดี โดยนครบาล ดูเรื่องการเสียชีวิต กองปราบปรามดูเรื่องความผิดปกติของการโอนหุ้น ส่วน ผลสรุปที่ออกมา หากไม่เป็นที่พอใจของครอบครัว ก็สามารถฟ้องร้องต่อศาลได้ ส่วนเรื่องการสรุปสาเหตุเสียชีวิตของนายชูวงษ์ ยังสรุปไม่ได้ เพราะมีปัญหาเรื่องศพฌาปนกิจ ไปแล้ว จึงยากตรวจสอบและสรุปสาเหตุ
หลัง การประชุมพล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า จากการสืบสวนสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานเกี่ยวกับการโอนหุ้นของตำรวจกองปราบ ปรามพบความผิดปกติชัดเจน และตำรวจมีพยานหลักฐานเพียงพอต่อการออกหมายจับผู้ต้องหา คาดว่าภายใน 1-2 วัน จะสามารถออกหมายจับได้ แต่ยังไม่ขอ เปิดเผยว่ามีจำนวนกี่คนและถูกดำเนินคดีข้อหาอะไร
ผู้สื่อ ข่าวถามว่าการโอนหุ้นพบความผิดปกติตรงจุดไหน พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า เอาเป็นว่ามีความไม่ชอบมาพากลในการทำธุรกรรมการโอนหุ้นของนายชูวงษ์ นาย ชูวงษ์มีเจตนาอย่างหนึ่ง แต่มีการทำธุรกรรมที่บิดเบือนเจตนาของนายชูวงษ์ไปอีกแบบหนึ่ง นั่นคือความผิด ส่วนที่ว่าผิดปกติอย่างไรตนไม่สามารถเปิดเผยในรายละเอียดได้ เนื่องจากตรงนี้เป็นข้อมูล หรือพยาน หลักฐานในสำนวนการสอบสวน หากพูดไปจะเป็นช่องทางให้ผู้กระทำผิดแก้ไข หาทางหนีทีไล่ได้ ยืนยันว่าเป็นความผิดที่สามารถดำเนินคดีกับผู้ที่เกี่ยวข้องได้
เมื่อ ถามว่าความผิดปกติที่ว่า นายชูวงษ์ตั้งใจหรือไม่ตั้งใจโอนหุ้น พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังตอบไม่ได้ แต่เอาเป็นว่าผู้ที่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องใช้กลอุบายฉ้อฉล หรือวิธีการ ที่ไม่ถูกต้องโอนหุ้นไปโดยไม่ถูกต้อง ซึ่งตำรวจสามารถดำเนินคดีกับบุคคลเหล่านี้ได้ เมื่อถามว่าเกี่ยวกับการปลอมแปลงเอกสารหรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ขอไม่ตอบ เพราะเป็นเรื่องในสำนวนการสอบสวน
ต่อข้อถามว่า เรื่องประเด็นการโอนหุ้นเชื่อมโยงกับการเสียชีวิตของนายชูวงษ์หรือไม่ พล.ต.อ.สมยศกล่าวว่า ยังสรุปไม่ได้ ต้อง ขึ้นอยู่กับพยานหลักฐาน ตำรวจจะใช้ความรู้สึกหรือความเชื่อไม่ได้
"อย่างอุบัติเหตุ ที่เกิดขึ้น ความรู้สึกของคนทั่วไปมองว่าไม่น่าจะเป็นอุบัติเหตุ น่าจะเป็นการฆาตกรรม แต่สำหรับตำรวจทุกอย่างต้องว่ากันตามพยานหลักฐาน ผมเห็นใจตำรวจ สน.อุดมสุข และตำรวจนครบาล ที่เข้ามาทำคดีนี้ เพราะมันมีกรอบ คดีทุกคดีต้องดำเนินการไปตามพยานหลักฐาน อย่างความรู้สึกมันคิดว่าต้องเป็นแบบนี้ แต่เมื่อไม่มีพยานหลักฐาน เราก็ไม่สามารถดำเนินการได้ เข้าใจว่าเมื่อผมบอกว่าการโอนหุ้น ผิดปกติร้อยเปอร์เซ็นต์ ต้องมองว่ามูลเหตุการเสียชีวิตมาจากหุ้น เราก็คิดเหมือนท่าน แต่พยานหลักฐานมันไปไม่ได้แล้วจะทำอย่างไร" พล.ต.อ.สมยศกล่าว
เมื่อถามว่า พ.ต.ท.บรรยินมีส่วนเกี่ยวข้องกับการโอนหุ้นที่ผิดปกติหรือไม่ พล.ต.อ. สมยศกล่าวว่า ยังไม่ทราบต้องรอผลการสอบสวน
พล.ต.อ. สมยศกล่าวด้วยว่า ข้อมูลต่างๆ ในการสืบสวนสอบสวนเกี่ยวกับการโอนหุ้น ส่วนหนึ่งได้มาจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ หรือ ก.ล.ต. และบริษัทหลักทรัพย์ที่รับผิดชอบเรื่องหุ้น ซึ่งไม่ค่อยให้ความร่วมมือกับตำรวจเท่าที่ควร ซึ่งตรงนี้ถือว่าเป็นเรื่องที่น่าผิดสังเกต ซึ่งตำรวจแจ้งไปยังหน่วยงานของรัฐที่รับ ผิดชอบดูแลบริษัทหลักทรัพย์ที่มีปัญหาอยู่ในขณะนี้ว่าจะทำอย่างไรให้บริษัท เหล่านี้ ให้ความร่วมมือ ขณะที่ตำรวจก็จะใช้มาตรการทางกฎหมายกดดันให้เขามอบพยานหลักฐานสำคัญในคดี นอกจากนี้หากพบว่าบริษัทหลักทรัพย์เหล่านี้มีการกระทำ ที่ผิดกฎหมายเกี่ยวกับหลักทรัพย์ และตลาดหลักทรัพย์ก็ต้องถูกดำเนินคดี
รายงาน ข่าวแจ้งว่า ทีมสืบสวนพบข้อมูลว่า หลังเกิดเหตุน.ส.กัญฐณา ศิวาธนพล แคดดี้ ถอนเงินออกจากบัญชี 1 ล้านบาท ซึ่งชุดสืบสวนอยู่ระหว่างการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่สถาบันการเงินแห่งหนึ่ง เพื่อหา ความเชื่อมโยง อย่างไรก็ตามหลังการประชุมชุดคลี่คลายคดีทั้งในส่วนของนครบาล และกองปราบปราม ทางพล.ต.อ.สมยศเน้นย้ำ ให้ชุดทำงานแสวงหาหลักฐานเพื่อนำไปสู่การคลี่คลายข้อเท็จจริง โดยให้ทำอย่างรอบคอบ เนื่องจากคดีการเสียชีวิตของนายชูวงษ์ เป็นที่สนใจ ทั้งนี้วางแนวทางให้ทางชุดคลี่คลายคดีอิงตาม หลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ เพื่อให้คลาย ข้อสงสัยในเรื่องสาเหตุการเสียชีวิต รวมทั้งการโอนหุ้นว่ามีเงื่อนงำหรือไม่อย่างไร
รายงานข่าว แจ้งว่าประเด็นการโอนหุ้นนั้นชุดคลี่คลายคดี ส่งเอกสารหลักฐานการโอนหุ้นและการทำธุรกรรมทั้งหมดของนายชูวงษ์ไปให้ทางกอง พิสูจน์หลักฐานเปรียบเทียบ ส่วนกรณีที่จะมีการออกหมายจับ ผู้ที่เกี่ยวข้องนั้น อยู่ระหว่างการรวบรวมข้อมูลพยานหลักฐาน ผลตรวจต่างๆ ซึ่ง ขณะนี้ได้มาแล้วบางส่วน โดยพบว่ามีการแก้ไขเอกสารการทำธุรกรรมโอนหุ้น พบเอกสารมีการแก้ไขข้อความจากการจำนำหุ้น เป็นการโอนหุ้น ซึ่งในเอกสารดังกล่าวที่มีการแก้ไขนั้น แก้ไขเฉพาะหัวเรื่อง แต่ลายเซ็นเป็นของนายชูวงษ์จริง ยังขาดหลักฐานเอกสารผลตรวจบางอย่าง ซึ่งหากผลตรวจออกมาครบก็สามารถที่จะขอออกหมายจับได้ ทั้งนี้ชุดสืบสวนจะดำเนินการออกหมายจับ ผู้ที่เกี่ยวข้อง 2 รายแรก เป็นผู้หญิงทั้งคู่
ส่วนในเรื่องของอุบัติเหตุนั้น ทางผบ.ตร.ให้ชุดสืบสวนลงพื้นที่ตรวจสอบหากล้อง วงจรปิดก่อนเกิดเหตุ ในเส้นทางก่อนและหลัง 1 กิโลเมตร รวมทั้งระยะเวลาที่แน่ชัดว่ารถคันเกิดเหตุมีการออกจากสนามกอล์ฟ กี่โมง เนื่องจากพบพิรุธความผิดปกติว่ารถคันเกิดเหตุหายไปครึ่งชั่วโมง
ที่ แพทยสภา กระทรวงสาธารณสุข น.ส. วันเพ็ญ ธนธรรมศิริ พี่สาวของนายชูวงษ์ พร้อมญาติและทนายความ เดินทางเข้ายื่นหลักฐานการชันสูตรศพของนายชูวงษ์ จากสถาบันนิติเวชวิทยา ร.พ.ตำรวจ พร้อมด้วยเอกสารประกอบอื่นๆ อาทิ ภาพถ่าย ให้กับ นพ.สมศักดิ์ โล่ห์เลขา นายกแพทยสภา เพื่อขอให้ตรวจวิเคราะห์หาข้อเท็จจริงของการเสียชีวิตว่ามาจากสาเหตุใด
น.ส.วัน เพ็ญกล่าวว่า ที่เดินทางมาร้องขอให้แพทยสภาช่วยตรวจวิเคราะห์ให้นั้น ไม่ใช่ว่าไม่ไว้ใจเจ้าหน้าที่ตำรวจ แต่เป็นเพราะ หลังได้รับผลการชันสูตรศพเมื่อวัน 3 ส.ค. ที่ผ่านมานั้น ไม่ได้ระบุสาเหตุการเสียชีวิตที่ชัดเจน ในขณะที่ญาติๆ ยังมีข้อสงสัยหลายประเด็น ไม่ว่าจะเป็นด้านบาดแผลจากภายใน ช่องท้อง ใบหน้า ท้ายทอย จึงนำเอกสารหลักฐานต่างๆ ให้กับทางแพทยสภาช่วยตรวจสอบอีกครั้งหนึ่ง ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกฝ่ายที่ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่เพื่อคลี่คลาย คดี ซึ่งมีเรื่องราวที่ซับซ้อน อย่างไรก็ตาม ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ขึ้นมาทางญาติยังไม่ได้รับการติดต่อจาก พ.ต.ท.บรรยินและพริตตี้สาว 2 คนที่เกี่ยว ข้องกับการโอนหุ้นแต่อย่างใด
ด้าน นพ.สมศักดิ์กล่าวว่า เอกสารที่รับมาวันนี้ตนคงไม่สามารถบอกอะไรได้ แต่จะเร่งดำเนินการส่งให้กับราชวิทยาลัยพยาธิแพทย์แห่งประเทศไทย และสมาคมแพทย์นิติเวช จัดเจ้าหน้าที่จากส่วนกลางที่ไม่มีผลประโยชน์ทับซ้อนมาช่วยตรวจพิสูจน์หา สาเหตุการ เสียชีวิต ร่วมกับข้อมูลของหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่าง ละเอียด ทางวิศวกรรมทางรถยนต์อย่างละเอียดอีกครั้งหนึ่ง แต่ยังไม่สามารถบอก ได้ว่าผลการตรวจวิเคราะห์จะออกวันไหน แต่จะกำชับให้ดำเนินการให้เร็วที่สุด
ที่มา : ข่าวสด
