เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 6 ส.ค. ร.ต.ท.วรพรต ตาลแก้ว พงส.สน.สามเสน รับแจ้งเหตุเพลิงไหม้ภายในชั้น 2 ของคาคารหอสมุดแห่งชาติ ถนนสามเสน แขวงวชิรพยาบาล เขตดุสิต หลังรับแจ้งจึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อม พ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.สามเสน และแพทย์กู้ชีพรพ.วชิรพยาบาล หน่วยบรรเทาสาธารณภัย และพฐ.
ที่เกิดเหตุเป็นอาคารสูง 5 ชั้น ซึ่งกำลังปรับปรุง จุดเกิดเหตุอยู่บริเวณชั้น 2 พบกลุ่มควันจำนวนมาก เจ้าหน้าที่จึงระดมฉีดน้ำสกัดเพลิง โดยใช้เวลา 45 นาที ไฟจึงดับลง ตรวจสอบบริเวณท่อแอร์ขนาดใหญ่ได้รับความเสียหาย ซึ่งขณะทำการปรับปรุงเจ้าหน้าที่ได้ขนย้ายหนังสือต่างๆ ไปไว้ยังอาคารด้านหลัง จึงไม่มีหนังสือได้รับความเสียหาย โดยหลังจากเกิดเหตุทางเจ้าหน้าที่ฝ่ายอาคารยุติการปรับปรุงอาคารชั่วคราว เพื่อตรวจสอบความเสียหาย
สอบสวนทราบว่า ผู้รับเหมาได้ต่อเติมอาคารแห่งนี้ตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา โดยเริ่มจากบริเวณชั้น 5 ของตัวอาคารก่อนจะไล่ลงมาตามลำดับตั้งแต่ชั้น 5 ระหว่างเกิดเหตุอยู่ระหว่างปรับปรุงบริเวณชั้น 2 ขณะคนงานกำลังปรับปรุงฝ้าเพดาน และเดินท่อแอร์ภายใต้อาคารอยู่นั้น ก็เกิดประกายไฟขึ้นจึงทำให้เกิดดพลิงไหม้ เบื้องต้นระหว่างเกิดเหตุมีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ทราบชื่อนายทองใส่ ทองพูล อายุ 35 ปี เป็นคนงานช่างแอร์ ที่กำลังต่อเติมเดินท่อแอร์อยู่ภายในชั้น 2 มีอาการสำลักควัน ทางเจ้าหน้าดำเนินการส่ง รพ.วชิรพยาบาล เป็นที่เรียบร้อย
เบื้องต้นเจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบสาเหตุเพลิงไหม้ เนื่องจากกำหนดการของผู้รับเหมาในการปรับปรุงวันนี้ ยังไม่มีรายระเอียดอย่างแน่ชัด แต่จากการตรวจสอบพบเครื่องเชื่อมวางอยู่ในที่เกิดเหตุแต่ยังไม่สรุปว่า เป็นสาเหตุของการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้หรือไม่ ทางเจ้าหน้าที่ต้องเรียกผู้รับเหมา และพนักงานปรับปรุงอาคารในจุดเกิดเหตุ มาสอบปากคำเพิ่มเติม เพื่อหาขัอเท็จจริงในการเกิดเพลิงไหม้ครั้งนี้ต่อไป
ด้าน นายบวรเวท รุ่งรุจี อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า เพลิงไหม้บริเวณชั้น 2 ของอาคารด้านหน้า ซึ่งอยู่ระหว่างซ่อมแซมปรับปรุงอาคาร ส่วนสาเหตุได้รับรายงานจากเบื้องต้นคาดว่า ช่างก่อสร้างเข้าไปรื้อช่องแอร์ในอาคาร จึงอาจเป็นสาเหตุให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร และเกิดเพลิงไหม้ดังกล่าว
“ภายในอาคารที่เกิดเหตุไม่มีหนังสืออยู่ เพราะได้ขนย้ายออกตั้งแต่ก่อนดำเนินการปรับปรุงซ่อมแซมอาคาร ทั้งนี้ ต้องรอรายงานจากเจ้าหน้าที่ตำรวจ และต้องมีการตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงต่อไป” นายบวรเวท กล่าว